การค้าแข้งในระดับสโมสร ของ สุรีย์ สุขะ

หลังจากจบชั้นมัธยมศึกษา ปีที่6 พวกเขาทั้งสามคน (สุรีย์, สุรัตน์, โกสินทร์) ก็ถูกเรียกตัวเข้าไปเล่นให้ สโมสรชลบุรี เอฟซีในปี 2543 ซึ่งเป็นการเล่นระดับสโมสรเป็นครั้งแรก โดยลงเล่นในโปรลีกจากนั้นปีพ.ศ. 2544 จึงได้เซ็นสัญญากับสโมสรบาเลสเตียร์ในเอส-ลีกสิงคโปร์ พร้อมกับครองพล ดาวเรือง แต่ด้วยอายุเพียง 18 ปีจึงได้เล่นอยู่กับทีมสำรองเป็นส่วนมาก ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่เพียงแค่8นัดตลอดทั้งฤดูกาล

ปี2545 สุรีย์กลับมาร่วมทีมชลบุรีอีกครั้งและเป็นกำลังสำคัญให้ทีมเรื่อยมาจนพาทีมคว้าแชมป์โปรลีกได้ในปีพ.ศ. 2548 พร้อมคว้าสิทธิ์เล่นในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกได้เป็นครั้งแรกของสโมสร ทำให้สุรีย์เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ประกอบกับการโชว์ฟอร์มที่ค่อนข้างดีทั้งของเขาเอง และสโมสรที่ได้แชมป์โปรลีก ทำให้สุรีย์ สุขะ มีชื่อติดทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ครั้งที่23ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ในปลายปี2548 ซึ่งทีมชาติไทยสามารถคว้าแชมป์ได้เหรียญทองในที่สุด

สุรีย์ สุขะติดทีมชาติอีกครั้งในการแข่งขันเอเซียนเกมส์ครั้งที่ 15 ที่การ์ตาร์ ปี 2549 ซึ่งไทยทำผลงานได้ดีแต่ตกรอบแรก จากนั้นสุรีย์ก็ได้เล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ในรายการอาเซียนคัพปี 2550 ซึ่งไทยได้รองแชมป์และสุรีย์เล่นได้โดดเด่นมากจึงได้เป็นผู้เล่นตัวจริงในทีมชาติชุดใหญ่ในรายการฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย หรือเอเชียนคัพ 2007ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับเวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ทำให้สุรีย์แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในตำแหน่งกองหลังริมเส้นฝั่งขวา โดยเฉพาะนัดที่ทีมชาติไทย พบกับทีมชาติออสเตรเลีย สามารถใช้ความคล่องตัวสู้กับผู้เล่นออสเตรเลียที่สูงใหญ่และหนากว่าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเติมเกมรุกที่จัดจ้าน จนฟอร์มการเล่นเป็นที่ประทับใจสโมสรฟุตบอลในต่างประเทศเป็นอย่างมากแม้ไทยจะตกรอบแรก

วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 เป็นวันที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลไทย เมื่อ สุรีย์ สุขะ ได้เซ็นสัญญาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ซิตีพร้อมกับเกียรติประวุฒิ สายแวว และธีรศิลป์ แดงดา โดยทั้งสามเคยไปทดสอบฝีเท้ากับแมนเชสเตอร์ซิตี มาแล้วก่อนหน้านี้ จนสเวน โกรัน อิริกสัน ประทับใจเป็นอย่างมาก [ต้องการอ้างอิง] จึงเดินทางมาเซ็นสัญญานักเตะทั้ง 3 คนที่เมืองไทย แต่ทั้ง3คนไม่สามารถลงเล่นให้ต้นสังกัดได้เนื่องจากไม่ได้ใบอนุญาตทำงานหรือเวิร์ค เพอร์มิต [1] และได้ทำสัญญาให้สโมสรกราสฮอปเปอร์ซูริคยืมตัวเป็นเวลา 1 ปี [2] โดยแมนเชสเตอร์ซิตีจ่ายเงินเดือนให้เดือนละสามแสนบาท รวม 8 เดือนก่อนยกเลิกสัญญาและชดเชยให้อีก 2 เดือน[3] ต่อมา สุรีย์ เดินทางกลับมาเล่นและฝึกซ้อมกับต้นสังกัดเดิมในประเทศไทย [4]